วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

โรคตาแดง

โรคตาแดง (Acute Conjunctivitis)



โรคตาแดงเป็นการอักเสบติดเชื้อของตาซึ่งในความหมายที่ระบาดมากๆนี้ก็หมายถึงการติดเชื้อไวรัส (แต่ก็อาจมีเชื้อแบคทีเรียมาแทรกซ้อนในภายหลังได้) เนื้อหาหลัก หมอเอามาจากกระทรวงสาธารณสุขไทย จะได้ทราบว่ากระทรวงอยากให้ทำอย่างไร ... จะได้แนะนำต่อได้ค่ะ

โรคตาแดงเป็นได้ในทุกกลุ่มอายุ เป็นมากในเด็กเล็ก เพราะมีการติดต่อได้ง่าย เด็กเล็กไม่ค่อยระวังในเรื่องการติดต่อ และไม่ค่อยล้างมือบ่อยๆ จากเด็กก็ติดไปยังเพื่อนๆที่ โรงเรียน แล้วเด็กๆก็นำเชื้อไปสู่ที่บ้านได้
ส่วนไหนที่จะติดต่อนำเชื้อ? ตอบว่าคือส่วนที่มาจากตา ไม่ว่าจะเป็นน้ำตา หรือขี้ตา ฉะนั้นสิ่งต่างๆที่ไปโดนน้ำตาหรือขี้ตาก็ส่งผ่านเชื้อไปยังคนอื่นได้ ไม่ว่าจะมือ หรือนิ้วของเค้า (ซึ่งก็ไปปจับสิ่งต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะลูกบิดประตูห้องน้ำ, ปากกา, โทรศัพท์ ถ้าบังเอิญใช้ด้วยกัน,คีย์บอร์ด, ราวบันได ฯลฯ )
อาการ
เมื่อได้รับเชื้อ จะใช้เวลา 1-2 วัน ผู้ที่ได้รับเชื้อจะเคืองตา คันๆตา ก็ขยี้ตา (ก็บวมแดงมากขึ้น ปกติก็จะแดงจากการอักเสบอยู่แล้ว) จากนั้นก็จะมีน้ำตาไหล ดูตาบวมๆ ตาขาวแดงๆขึ้น อาจมีน้ำตา(ซึ่งติดต่อไปยังผู้อื่นได้) หรือเป็นลักษณะขี้ตาสีออกเหลืองๆมาก (แบบรูป 3 ซึ่งมักมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ) โดยทั่วไปโรคจะเป็นอยู่ประมาณ 5-7 วัน
การป้องกันไม่ให้เป็นตาแดง
1.ล้างมือ ฟอกสบู่ (สบู่ธรรมดาไม่ใช่สบู่ฆ่าเชื้อก็ได้ ) ล้างบ่อยๆโดยเฉพาะถ้ามีการไปจับโดนของที่ใช้ร่วมกับคนอื่นเช่นลูกบิดประตู
2.พยายามอย่าใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่นเช่น ผ้าเช็ดหน้า ,ปากกา
3. ระวังอย่าให้น้ำที่อาจจะไม่สะอาดเข้าตา
การรักษาตาแดง (อันนี้หมอดูข้อมูลของทางกระทรวงสาธารณสุขแล้วว่าต้องการให้ประชาชนทำแบบไหน) ซึ่งสรุปว่าทางกระทรวงบอกว่าประชาชนสามารถซื้อยาหยอดตาที่ร้านขายยาที่มีเภสัชกรแนะนำได้ แต่อย่าไปหาหยอดตาที่ไม่มีการรับรองเช่น ที่บอกว่าเป็นน้ำสมุนไพร หรือน้ำอะไรมาหยอดตา เพราะอาจจะแย่ลงได้ แต่ถ้าสัก 3-4 วันใช้ยาหยอดตาแล้ว ไม่ดีขึ้นเลยหรือแย่ลงก็ควรไปตรวจรักษากับจักษุแพทย์
ยาหยอดตา ( จะไปตรวจกับจักษุแพทย์ หรือ ไปซื้อยาและให้เภสัชกรแนะนำยาหยอดตาให้ ก็ได้ค่ะ กระทรวงสาธารณสุขบอกว่าแบบนั้นค่ะ)
1. ลดอาการระคายเคืองตา
2.เนื่องจากตาแดงที่เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่มียารักษาไวรัสโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่ก็อาจจะได้ยาหยอดตาแบบยาปฏิชีวนะ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจแทรกซ้อนค่ะ
3.ผู้ปกครองจะหยอดยาหยอดตาให้บุตรหลาน หรือใครหยอดตาเอง ก็ล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาด จากนั้นหยอดยา (กรณีมีมากกว่า1 ชนิดยาหยอดตาให้เว้นห่างกัน 5 นาทีค่ะ แล้วหยอดยาตัวที่สองค่ะ ) ตามรูปที่ 4-6 หยอดยาหยอดตาเฉพาะข้างที่เป็นตาแดงนะคะ "ห้ามไปหยอดป้องกันอีกข้าง" เพราะอาจจะติดเป็นตาแดงไปอีกข้างได้ และเมื่อหยอดตาเสร็จแล้วต้องล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดด้วย
ช่วงเป็นตาแดงควรหยุดเรียน หรือหยุดงาน เพื่อลดการแพร่เชื้อประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ หลายๆคนก็สวมแว่นกันแดดเพราะช่วงที่เป็นก็อาจจะมีอาการตาสู้แสงไม่ค่อยได้ค่ะ
วิธีหยอดยาหยอดตาที่ถูกต้อง
1. ล้างมือฟอกสบู่คนที่เป็นคนหยอด ถ้าหยอดตาด้วยตัวเองก็ทำตามรูปที่ 5 คือใช้นิ้วอีกมือดึงหนังตาล่างลง
2. หยอดยาโดยหยดยาครั้งละ 1-2 หยด อย่าหยอดจ่อใกล้ตามากไป เพราะบางครั้งเชื้อจากตาก็กระเด็นไปกับน้ำไปอยู่ที่ปลายของส่วนที่หยดยา
3. เมื่อหยอดตาเสร็จควรกดหัวตาแป๊บนึง เพื่อไม่ให้ยาไหลออกทางรูน้ำตา หลับตาชั่วขณะ
4.ถ้ามีการจะซับตาหลังหยอดยา ควรใช้ทิชชูแล้วทิ้งไปเลยมากกว่า เพื่อลดการติดต่อไปยังผู้อื่น
5. เมื่อหยอดตาเสร็จแล้วก็ล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดอีกครั้งค่ะ
**** โรคตาแดง เป็นแล้วกลับมาเป็นได้อีกนะคะ ไม่ใช่เป็นแล้วจะมีภูมิต้านทานค่ะ ****
โรคตาแดงเป็นโรคที่ติดต่อง่าย และระบาดมากอยู่ในขณะนี้ แต่ถ้ามีการป้องกันดีๆก็จะลดการแพร่ระบาดได้ คนที่เป็นตาแดงและหายแล้ว ก็สามารถรับเชื้อแล้วเป็นใหม่ได้อีกค่ะ ช่วยกันเผยแพร่ความรู้ เพื่อร่วมกันป้องกันตาแดงระบาดนะคะ 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.facebook.com/DoctorBClinic

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น